การประมูลช่องทีวีดิจิตอลประเภทธุรกิจ (จากการเปิดทดลองการประมูลครั้งแรก)
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการเปิดทดสอบการประมูลคลื่นความถี่ (PreMock Auction) เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประกอบการธุรกิจระดับชาติขึ้นเป็นครั้งแรก โดยให้ทั้งผู้ประกอบการที่คาดว่าจะเข้าร่วมประมูล และสื่อมวลชนเข้าร่วมทดลองระบบ ซึ่งมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้ามาทดลองเป็นจำนวนมาก
ในการทดสอบการประมูลครั้งนี้ ได้ทำการเปิดทดสอบให้แก่ผู้ประกอบการทั้งหมด 3 รอบ รอบละ 10 ราย และให้สื่อมวลชนเข้าทดสอบอีก 1 รอบ สำหรับขั้นตอนในการประมูลผู้เข้าประมูลสามารถส่งตัวแทนจำนวน 3-5 คนเข้าร่วมประมูล เมื่อกรรมการเริ่มให้มีการประมูล ผู้ประมูลจะต้องกดเสนอราคาภายใน 5 นาทีแรก โดยราคาที่เสนอเริ่มแรกคือราคาเริ่มต้นตามใบอนุญาตของแต่ละหมวดหมู่การให้บริการ โดย ผู้ประมูลแต่ละรายสามารถเคาะเสนอราคาเข้ามากี่ครั้งก็ได้ ซึ่งการเคาะราคาแต่ละครั้งจะมีราคาเพิ่มขึ้นตามที่กำหนด (เช่น step ละ 10 ล้านบาทเป็นต้น) โดยมีระยะเวลาในการประมูล 60 นาที ผู้เข้าประมูลสามารถเสนอราคาเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ กี่ครั้งก็ได้ ภายในระยะเวลาประมูลนี้ กรณีที่ครบ 60 นาทีแล้วยังมีผู้เสนอราคาเท่ากันเกินกว่าจำนวนช่องที่เปิดประมูล จะต่อเวลาเพิ่มอีกครั้งละ 5 นาที เมื่อสิ้นสุดการขยายเวลา และไม่มีการเสนอราคาเพิ่ม จะทำการจับฉลากหาผู้ชนะการประมูล
โดยหน้าจอของผู้เข้าประมูล จะเห็นราคาที่ตนเองเสนออยู่ปัจจุบัน และแสดงสถานะของตนเองว่าขณะนี้อยู่ในลำดับที่เท่าไหร่ และบอกว่ามีสิทธิ์เป็นผู้ชนะประมูลหรือยัง เช่น ถ้ามีใบอนุญาต 4 ใบ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มมีสิทธิ์ชนะการประมูลก็คือเสนอราคาสูงอยู่ในอันดับ 1-4 นั่นเอง นอกจากนี้ บนหน้าจอของผู้เข้าร่วมประมูล ยังมีช่องที่บอกราคาต่ำสุดที่จะต้องเสนอเพื่อให้มีสิทธิ์อยู่ในกลุ่มของผู้ชนะการประมูลในขณะนั้น ผู้เข้าประมูลก็จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการตัดสินใจ ตามแผนธุรกิจและงบประมาณที่ตนเองเตรียมมา
เมื่อจบการประมูล ผู้เสนอราคาสูงสุดไล่ลงมาตามจำนวนใบอนุญาตที่เปิดประมูลจะเป็นผู้ชนะการประมูล โดยผู้ที่เสนอราคาสูงกว่าจะมีสิทธิ์เลือกหมายเลขช่องและโครงข่ายที่ต้องการก่อน
พ.อ. ดร. นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น